ทริปต่อเนื่องจากปฐมทริปเลยจ้า
เราไปเที่ยวเมืองกาญจน์กัน
เรื่องนี้ซิ่มเป็นคนจัดการทั้งหมดทั้งมวล
เรื่องนี้ซิ่มเป็นคนจัดการทั้งหมดทั้งมวล
ส่วนนี่ก็ทำตามเค้าเก็บกระเป๋า เตรียมเงิน เตรียมร่างกายพร้อมไป 555
ทริปนี้รูปก็มีน้อยนิดแบบโลวควอลิที้มาก
ขอเล่าเรื่องการเดินทางแป๋บ ตอนนั้นเรากำลังสนใจเรื่องเสื้อแดง
อะไรที่เป็นสีแดงเราแอนตี้หมด อิพวกนี้หัวรุนแรงค่ะ 55555
*หลบรองเท้า*
เราก็ขึ้นรถทัวร์ไปลงสถานีขนส่งกาญจนบุรี และก็รอๆๆๆๆๆๆ พี่จ่ามารับ
ปล. พี่จ่าคือพี่ที่ซิ่มรู้จัก
เราก็นั่งคุยกันไปเรื่อย ปรากฏว่าพี่จ่าขับรถสีแดงมาเลยจ้า
อิพวกนี้ไหนเมิงบอกเมิงแอนตี้สีแดงไง
ทำความรู้จักกับพี่จ่าเรียบร้อย ระหว่างทางไปน้ำตกเอราวัณพูดคุยกันกับพี่จ่า
เหมือนรู้จักกันมา 10 ปี 5555
ถึงแล้วน้ำตกเอราวัณมาด้วยรถแดง
ซิ่มกับปาล์ม ก็เล่นน้ำกันจ้า

แต่อยากเล่นน้ำ


วันแรกไปเที่ยวกันใกล้เมือง และค้างคืนที่บ้านที่จ่า 1 คืน
คืนแรกนี่ระบบการนอนเหมือนไม่เข้าที่เข้าทาง
ตกลงที่พื้นที่นอนกันไม่ได้ซะที
สำคัญคือการ สอนปุ๊กเล่นไพ่ๆ เล่นสลาฟ
เธอเล่นไม่เป็น เธอไม่รุ้เลยว่าอะไร คือโพธิ์ดำ โพธิ์แดง ดอกจิก ข้าวหลามตัด

เราตั้งสอนเธอตั้งแต่ต้น
ตั้งแต่ป้าใจขายข้าวหลามใต้ต้นโพธิ์ อิปาล์มคิด
สรุปคืนแรกนี่เล่นไพ่กันเกือบเช้าและเสียงดังมาก
จนชาวบ้านบ้านข้าวๆ มาถามตอนเช้าที่บ้านมีเรื่องอะไรกัน
55555555555555
.
.
วันที่ 2 จะมีผู้ร่วมทริปเพิ่มมาอีกคนคือ พี่นะ
ระหว่างรอ พี่จ่าพาไปเที่ยวที่ใกล้ๆ บ้านพี่จ่าก่อน

สะพานแขวนข้ามแม่น้ำแคว
สังเกตุดีๆ อิปาล์มนั่งเกร็งทั้งตัวเลยจ้า
และแล้วพี่นะก็มาพร้อมรถกะบะคู่ใจที่ไม่เชื่อว่าจะพาพวกเราไปถึงสังขละบุรีได้สังเกตุดีๆ อิปาล์มนั่งเกร็งทั้งตัวเลยจ้า
แต่พวกเราก็ไปถึงกันค่าาาาาาา คุณผู้โช้มมม
ระหว่างทางแวะน้ำตกไทรโยกน้อยสักนิด เป็นทางผ่านพอดี

น้ำตกไทรโยคน้อย ที่ทางรถไฟสมัครสงครามโลกครั้งที่ 2
ญี่ปุ่นนำเชลยมาสร้างทางรถไฟข้ามไปพม่า
ออกเดินทางไปสังขละบุรีกันต่อ
กว่าจะไปถึงขึ้นเขา ลง เขา โค้งอีกไม่รู้กี่ร้อย กี่สิบโค้ง
เจอไฟปงไฟป่า นี่ไม่เคยเห็น ตื่นเต้นจ้าาาาาาาาา
ในที่สุดถึงแล้วสะพานมอญ สังขละบุรี


สะพานมอญ เป็นสะพานที่ชาวมอญร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเพื่อข้ามมาฝั่งไทย
ตอนที่ไปเค้ากำลังบูรณะซ่อมแซมอยู่

เรานอนที่ แพลุงบุญ กันหนึ่งคืน
เรื่องอาหารการกินก็สะดวกสบาย อยากกินอะไรก็สั่ง
แล้วจะมีคนนั่งเรือเอาอาหารมาส่ง
แต่เรื่องกินนี่อย่าบอกใครค่ะ ขนาดเหลือแต่มะเขือสดๆ
อิปาล์มก็ยังกินเพราะความหิว 555
แพลุงบุญ ลอยอยู่บนแม่น้ำซองกาเรีย น้ำใสมากสามารถเล่นได้
มีชูชีพให้เล่นน้ำพร้อมลงน้ำ แต่....
เล่นน้ำไปอาจเจอ ขี้ ลอยผ่านหน้าได้
เพราะห้องส้วมบนแพปล่อยลอยน้ำไปตามสายน้ำไหลเลยค่ะ
ถ้าใครอยากจะเล่นก็ไม่ว่ากันค่ะ 555


ตอนเช้าวันก็เดินข้ามสะพานไปใส่บาตรพระ คนสวยใจบุญก็เงี้ยะ 55


หลังจากนั้นก็เดินชมบ้านชมเมืองของชาวมอญว่าเค้ากินอยู่กันยังไง
เดินไปไหว้พระของหลวงพ่ออุตมะ วัดแบบมอญ สวยไปอีกแบบ
สังเกตุรูปได้ว่าอิปาล์มกับปุ๊กเค้าจะมุ่งมิ้งกันทุกทริปจ้า


เดินชมเมืองกันไปแล้ว ต่อไปก็ไปนั่งชมธรรมชาติและวัดใต้น้ำกัน
ตอนหน้าน้ำก็จะเป็นแบบในรูป
แต่ถ้าตอนหน้าแล้งก็ไม่มีน้ำอย่างนี้ งงมั้ย จะบอกเพื่อ? 55
ก่อนกลับก็แวะด่านเจดีสามองค์หน่อย
พาซิ่มไปหาแม่อองซาน 55
.
.
กินก๋วยเตี๋ยวพม่า

ทะเลาะกับอิแม่ค้าพม่าอีก
แม่งถอนเงินเป็นแบงค์โคตรเก่าๆๆๆๆๆๆๆ
เราก็เลยเอาแบงค์เก่าๆนั้นไปจ่ายมันต่อ
มันทำท่ารังเกียจไม่อยากได้
ดวกกกกส์มาก ก็คือเพิ่งให้กุมาเองไง แม่งง
.
.
คืน 3 เราไม่รุ้จะไปนอนที่ไหนกัน
ก้ตกลงกันว่าไปนอนแพในเขื่อนวชิราลงกรณ์
มาถึงเขื่อนก็เย็นมากจะมืดแล้ว แบบว่าคือแพนี่ไม่มีคนมาพักเลย
มีแค่อิพวกนี่ 7 คน
พวกเราก้จัดแจงเล่นน้ำในเขื่อนเลย เล่นน้ำตอนมืดๆเนี้ยะแหละ
เล่นน้ำ ปั่นเรือถีบ ไรงี้กัน
ตอนจะอาบน้ำไม่กล้าอาบในแพ เหมือนน้ำจะไม่สะอาด
เลยจะไปอาบน้ำบนบก ซึ่งมืดมาก
โฟม ปุ๊ก และตัวเราก็ไปเดินสำรวจ อิห่าน ทางน่ากลัวมาก
วังเวงมาก มืดมาก มีไฟฉ่ายเป็นแสงนำทาง แสงริบหรี่ๆ
เดินไปจ้า คุณลุงคนนึง นั่งเีงียบๆ มืด นั่งตกเบ็ดอยู่ คือลุงน่ากลัวมาก
แถมลุงไม่พูดอะไรอีก ยิ่งน่ากลัวไปใหญ่ กว่าจะเดินไปเจอห้องน้ำ
อิพวกเนี้ยะ เสี่ยวสันหลังวูบๆ ขนนี่ลูกซู่ๆ
ตอนอาบน้ำนี่ยกโขยงไปอาบพร้อมกันหมด
นอนในแพโยกตามกระแสน้ำไป
อิปาล์มก็ไม่ยอมนอนซะที ลุกขึ้น ปิดๆเปิดๆไฟอยู่นั่น
นอนตื่นมาเหมือนน้ำในหูไม่เท่ากัน
กลับถึงหอพักที่มอ เหมือนที่ใครมาเขย่าห้องตลอดเวลา
เมาเรือ เมาแพ
แพผีสิง !!!!!!!!!!!!!!!!
ก่อนกลับไหนแวะไปถ่ายรูปกับป้ายสักนิด 55

มาแล้วนะ เขื่อนวชิราลงกรณ์
เป็นอันจบทริป
ทริปนี้น้องพอยไม่ได้มา TT.TT
พอกลับจากเที่ยวเสร็จ เช้าของอีกวันต้องตื่นตี 5
ไปสุวรรณภูมิ เพื่อไปส่งอิอ้วนไปเรียนต่อที่ จีน 2 ปี
:) :) :)
