สวัสดีค่ะ พี่น้องมวลมหาประชาชนที่เคารพ
คำเตือน รูปเยอะมาก หากใครจะเปิดอ่านกรุณาใช้เน็ตแบบซุปเปอร์ไฮสปีดพลังควายทอง
และกรุณาแบ่งอ่าน 3 วัน อยากจิบอกว่ามันเป็นอะไรที่อีปิคค่อดดดดดด
นี่คือภาพตัวอย่าง

ต้นเหตุที่มาของบล๊อคหน้านี่คือนี่เลยจ้า เพื่อนโฟมนางมาโพสข้อความใน Facebook
ซึ๋งมันกระตุ้นฮอร์โมนความอยากเที่ยวของเพื่อนจนแตกซ่านไปทั้งแผ่นดินได้จนสำเร็จ 555
ทริปนี้จึงเกิดขึ้นแบบกะทันหัน แบบงงงวย งวยงง
ไม่มีเป้าหมายจะไปเที่ยวไหนแต่คือมันอยากไปเที่ยว อยากเจอหน้ากันงี้ เม้าท์มอยกันงี้
สรุปคือไปกาญจนบุรีข่าาา ไปรอบที่ล้านแล้วจังหวัดนี้
สังขละบุรีก็ไปมาแล้ว อีต่อง ปิล็อคก็ไปมาแล้ว แต่เรายังไม่เคยเที่ยวในตัวเมืองกาญกันเลย
ครั้งนี้จึงวางแผนเที่ยวแ่ต่ในตัวเมือง
ทริปนี้เราตั้งใจว่าจะเป็นทริป
* จิบชา กินเค้ก ถ่ายรูปแบบเกร๋ๆ
โปรดจำ Concept ทริปนี้ไว้ค่ะ ดอกจันไว้ล้านดอก
วันว่างของทุกคนที่พอจะเจียดเวลาให้ตรงกันได้ คือช่วงวันหยุดปีใหม่ 1-4 ม.ค.
เราตกลงจะไป 3 คืน 4 วัน ซึ่งหาที่พักยากเพราะมันกะทันหัน
แต่เราสามารถจองพี่พักที่ถูกใจได้ทั้งหมดค่่ะ ของแบบนี้มันต้องลอง
ที่พักของเรา ดังนี้ค่าาา
คืนที่ 1 Ploy Guesthouse คืนที่ 2 บ้านกกกอด และคืนที่ 3 U Inchan Tree
.
.
ก่อนวันเดินทางประมาณ 1 อาทิตย์เพื่อนปุ๊กเกิดอุบัติเหตุแฟ้มเอกสารเสียบเท้า
นี่คิดว่า นางควรไปแก้ปีชงหรือไม่ก็เปลี่ยนชื่อ เป็น ปุ๊กลิ คิคคิดสะระณัง คัจฉามิ นะ
นางเจ็บแผลจนทำให้นางเดินไม่ได้ พวกเรานอยด์กันไป จะยกเลิกทริปนี้กันเลย
เพราะขาดคนใดคนนึงไปก็เซ็งๆ แงะ ไม่ครบแก็งค์งี้ #วิ่งไปร้องไห้แปปนะ
แต่สุดท้ายพวกเราก็ ........

ไปตามแผนที่วางไว้ค่ะ อ่อม... พี่นกสินใจค่ะ หนูขอโทษนะ 5555
.
.
คณะผู้ร่วมทางที่จะปรากฏร่างในทริปของเรามีดังนี้

พี่นะ ณรงค์ Fast and Furious7
พลอย Fast Foods
พี่จ่า คิดคิดสะระณัง
ปาล์ม คิจภัค คิดถึงคิษฐ์แคฏฐ์
โฟม คิฏฐึงอาหาญ คิฐฐึงฟู้ฎแฬณด์
ซิ่ม สาวพม่าออฟฟิศ
และตัวเดี้ยนเอง อดีตแฟนเก่ามาริโอ้เมาเร่อ
ทดลองให้เพื่อนใช้นามสกุลแบบดารา 5555555
วันแรกของการเดินทาง
เริ่มต้นการเดินทางด้วยความวุ่นวายมากกว่าทุกคนมารวมตัวได้อย่างพร้อมเพรียง
โดยให้พี่น้องมวลมหาชนมารวมตัวกันที่อนุสาวรียร์ชัยสมรภูมิ

เราและปาล์มคือผู้ที่ยึดพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยได้ก่อนเพื่อนคนอื่นๆ
และรางวัลของผู้ที่มาก่อนคือการนั่งรอกันไปยาวๆ 2-3 ชั่วโมงแค่นั้นเอ๊งงงง เกร๋ๆ - -"
.
ขอข้ามรายละเอียดขี้เล็บเห็บหมาข้ามไปตอนที่ผู้ร่วมเดินทางครบและออกเดินทางเลยนะคะ
ซึ่งระหว่างเดินทางก็นั่งเม้าท์มอยกันตลอดทาง
พวกเราเดินทางถึงเมืองกาญ เวลา 23.00 น.ค่ะ พี่น้องมวลมหาประชาชน

ต้องเดินไปสั่งเล็กน้ำ แต่เหมือนลูกจ้างพม่าไม่เข้าใจ
จะกินก๋วยเตี๋ยวสักชาม ลูกชิ้นเอ็นนายฮั้งเพ็งจะได้ไหม ~
เส้นเล็กควรเดินไปสั่งนะคะงิ เหยยยย ร้องผิดปะแกร มันคือเพลงเรือเล็กควรออกจากฝั่งปะแกร 555
พวกเรากินก๋วยเตี๋ยวกับส้มตำแถวสถานีขนส่งจังหวัดนั้นแหละ
กินเสร็จเรียบร้อย ต้องหารถสองแถวไปที่พักของคืนแรกโดยพลัน
เนื่องจากมาถึงดึกได้อิ๊กกกกก กว่าจะกินเสร็จอะไรเสร็จก็เที่ยงคืนกว่าๆ ไปแล้ว
พวกเราทั้ง 5 คนก็โบกรถสองแถวเพื่อไปที่พักคืนแรก Ploy Guesthouse
หารถไม่ยาก แค่ดูเหมือนมีสองแถวคันนี้เป็นคันสุดท้ายแค่นั้นเอง หึหึ


ป้าคนขับรถสองแถวนับจำนวนคนแล้วบอกว่า มากัน 6 คนใช่มั้ย
ทุกคนร้องเฮ้ยยย ป้า!! 5 คนค่าาาาา หรือป้าสัมผัสได้ถึงอัลไลบางอย่างก็เป็นได้ 55

นั่งรถสองแถวชมเมืองกาญกันไปชิวๆ ลมเย็นๆ สบายๆ
ยังขนลุกกันกับเรื่องที่ป้านับว่าเรามากัน 6 คนไม่พอแงะ
คนขับรถสองแถวก็พาเราเข้าวัดผ่านโกฏ ฮวงสุ้ย และหลุมศพคริสต์
ขุ่นพระ 3 ศาสนาเลยแจร้
อิพวกนี่นั่งกันนิ่งเลออ เจนขนลุกไปหมด เจนสัมผัสได้ 55
และมีคนบอกว่าผีแถวนี้ไม่น่ากลัวหรอก เป็นผีคนรวย
อ่อมม แต่จะรวยหรือจนก็คือผีป่ะ ผีก็น่ากลัวหมดมิใช่เล่อะะะ
ถึงแล้วที่พักคืนแรก Ploy Guesthouse
มาดึกมากจนพนักงานที่คอยดูแลต้อนรับแขกกางมุ้งนอนหน้าล๊อบบี้แล้ว
ถึงกับต้องปลุกพี่เค้าเลย นี่ก็แอบเกรงใจเบาๆ 55




เก็บกระเป๋าเรียบร้อยก็ออกไปโลตัสซื้อของใช้ส่วนตัว เดินออกมาอยู่ใกล้ๆโรงแรม
ซอยโรมแรมมีร้านเหล้าให้นั่งดริ๊งทั้งซอยจ่ะ ฝรั่งให้รึ้ม
โถ่ๆๆๆ มาถึงเมืองกาญยังมาเจอผู้ชายเกาหลีที่โลตัส
เวลาเคลียร์เงินทุกอย่างหาร 5 เรื่องเงินๆทองนี่สำคัญคะคะ
เพื่อนก็เพือนเถอะค่ะ แม้แต่เศษสตางค์ก็ไม่มีลดให้ เห็นเงียบๆ อย่างนี้ หนี้เพียบนะคะ 5555
.
.
ถ่ายรูปบรรยากาศภายในที่พักตอนเช้า



ห้องพักที่แบบชั้นเดียวกับสองชั้น เราพักฝั่งชั้นเดียว
ส่วนใหญ่มีแต่ฝรั่งมาพัก
.
.
บริเวณหลังที่พักและที่รับประหารอาหารเช้า



ด้านหลังที่พักติดกับแม่น้ำแคว
.
.
เข้ามาดูบรรยากาศภายในห้องกันสักนิด



ในห้องมันดูมีอะไรตรงห้องน้ำนี่แหละ คือ เป็นกระจกใส จากในห้องสามารถมองเห็นในห้องน้ำได้
ต้องปิดม่านไว้เวลาอาบน้ำ ไม่งั้นคนในห้องจะเห็นกระบวนท่าในการอาบน้ำหมด
กระจกในห้องน้ำสามารถเปิดได้ เดินออกไปในสวนได้ เกร๋ๆ
เวลาอาบน้ำนี่พะวงมากเลย กลัวเพื่อนที่รักจะแอบดู
แบบที่ชะนีของคนในรูปด้านบนกำลังทำ 55
.
.
ถึงเวลารับประทานอาหารเช้า


ถามว่ากินแค่นี้อิพวกนี้อิ่มมั้ยยยยยยยยย ?



ถ่ายรูปแบบเกร๋ๆ
.
.
บริเวณลอบบี้โรงแรม





ทางเข้าโรงแรม ดูภายนอกดูเล็ก ดูไม่น่ามีอะไร
แต่ข้างในเค้าบริการพื้นที่ได้ดีมาก


ผ่านพ้นไปกับที่พักคืนแรก บรรยากาศดีทุกอย่างคือดี ให้ 3 ผ่านค่ะ
.
.
มือเช้าที่กินจากที่พักคือไม่ได้เศษเสี้ยวของกระเพราะอิพวกนี่เลยเถอะ
จัดส้มตำกันเลยที่ร้าน เลอปลาแดก แหมะตั้งชื่อดูเลอค่ามาก
5555555


สั่งอาหารตามสไตล์สุขภาพดี ต้องดีมาจากข้างใน
ไก่ย่าง คอหมูย่าง ปลาเผา ตำปูปลาร้า ตำมั่ว ตำไทยไข่เค็ม
ต้มแซ่บ ตำซั่ว ลาบหมูวุ้นเส้น ตับหวาน ขนมจีน ข้าวเนียว
อาหารมาล้าว สั่งชุดใหญ่ครบเซ็ต

ดูจากรูปก็คงรู้ว่าหิวกันมากแค่ไหนโนะะะะะ
.
.
เมื่อกินอิ่มก็ต้องเข้าวัดไหว้พระเพื่อเป็นศิริมงคล เฉกเช่นที่เราถือปฏิบัติกันทุกทริป
แวะไหว้พระที่ วัดใต้ ซึ่งเป็นวัดประจำจังหวัดกาญจนบุรี



ลอดอุโมงค์แล้วจะแคล้วคลาด ปลอดภัย
ไม่ได้อะไรนะแต่จัดกับไปคนละ 3 รอบ

เดินชมวัดสักนิด ย้ำว่านิ๊ดดด เดียวจริงๆ
ไหนคะ ไหนนนนน ? อากาศหนาวๆ ความหนาวได้จากเราไปอย่างสงบแล้วค่ะ ยืนไว้อาลัย
ไม่ว่าจะฤดูไหนตอนกลางวันเมืองกาญก็ยังร้อนเหมือนเดิม
.
.
ถึงเวลาต้องออกนอกเมือง


บรรยากาศเดิมๆ ที่ๆเดิม ที่ๆคุ้นเคย
คือการนั่งกะบะหลัง เอาหน้าท้าลมท้าแดด ไปยังบ้านกกกอด
แล้วอัลไล คือทริปจิบชา กินเค้ก ถ่ายรูปแบบเกร๋ๆ คะะะะะะ ทุกคนตอบ!!
นั่งกะบะหลังแบบเกร๋ๆ แทน 55
*แปลงร่างเป็นหญิงถึกแป่ป*
หลังจากเอาหน้าท้าล้มท้าแดดกันสักพักก็มาถึงบ้านกกกอด
บ้านกกกอดอยู่ไกลจากตัวเมืองพอสมควร คือตอนแรกอิพวกนี้จะเช่ารถสองแถว
จากในเมืองมาบ้านกกกอดมากันเอง พอเห็นทางไปบ้านกกกอดจริงๆ แล้ว
คิดว่าถ้านั่งสองแถวมาเค้าคงคิดค่ารถแปดหมื่นอะ คือไกลได้อิ๊กกกกก 55
ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งที่นะกับพี่จ่ามาช่วยพวกเรา /me ทำท่าซังกุงสูงสุดรัวๆ
บ้านกกกอด มีน้องหมามาต้อนรับ 3 ตัว


น้องหมาทั้ง 3 มีชื่อว่า ขนมถ้วย ขนมหวาน และขนมผิง



แค่ทางเดินเข้ามาก็สัมผัสได้ถึงธรรมชาติ อ่าาาา ฟินนน

อยากขยับเข้าไปใกล้เธอ
อยากรู้จักตั้งแต่ได้เจอ ใจฉันสั่นเมื่อได้ยินเสียงเธอ
ตั้งแต่วันแรกเจอก็เผลอเอาไปคิดละเมอออออ
แต่บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่ ก็ยังไม่รู้เธอคิดเช่นไร
ถ้าบอกคำนั้นแล้วเธอตอบมาว่าไม่ใช่ ถ้าเป็นแบบนี้เธอคงจะเดินหนีไป
ถ้ามีรูปต่อไปคือรูปกำลัง ตี ต่อย เตะ กันแล้วอะ
จบแล้วความซึ้ง 55

นางคนนี้คือมือที่สามขร่ะ หร่อน(กระดกลิ้นรัว ร.เรือ) ร้ายกว่าที่ชั้นคิดไว้มากนะคะ
บ้านกกกอดมีมุมให้ถ่ายรูปแบบเกร๋ๆ แบบที่พวกเราถ่ายกัน เกร๋ๆ

บรรยากาศตรงบึง ตอนที่น้ำลด ธรรมชาติ ภูเขา สายสม สายน้ำ แสงแดด
รู้สึกฟินดั่งเจ้าหญิงออโรร่าได้เจอเจ้าชายกบ #เอ๊ะผิดเรื่อง
.
ห้องน้ำที่บ้านกกกอด เป็นห้องน้ำแยกออกมา
คือแขกที่มาพักทุกห้องต้องมาอาบที่ห้องน้ำส่วนรวม



ห้องอาบน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่น 1 ห้อง และน้ำเย็นโคตรๆ 1 ห้อง แยกชายหญิง
แวะเข้าไปดูพี่พักคืนที่สอง และก็ออกไปเที่ยวกันก่อน
.
.
แวะดื่มชา กาแฟร้านต้นน้ำ ร้านเพิ่งเปิดใหม่เลย
คือรู้สึกได้ว่าเพิ่งจัดสวนลงไม่ดอกไม่ประดับเลย สายฟงสายไฟนี่ยังต่อไม่เสร็จเลยจ้าา


เริ่มเดินทางกันต่อ
เอาจริงๆ คือเดินทางไปไหนก็ไม่รู้ พี่นะ พี่จ่าพาไปไหนก็ไปอะ 55



สรุปคือพาซิ่มมาซื้อมะขามหวาน มันต้มเ่ผือกต้มงี้ ของชอบซิ่ม
ที่เพื่อนเรียกซิ่มเพราะงี้แหละ 55
ร้านขายมะขามหวานนี่ร้านดังนะ
ร้านของน้องเนยรักษ์โลก เรื่องนี้เนยจิไม่ทน




นี่คือนั่งรถไปนั่งรถมา ได้มะขามหวานกลับมา 1 กิโล
แล้วนั่งรถกลับเข้าเมืองไปกินหมูกะทะ me / เอาหัวโขลกกะบะรถสิบที 555
.
.
มาถึงเมืองกาญทั้งที เราก็มากินหมูกะทะกันขร่ะ
ที่ร้านหมูกะทะ ไอดูดูไอ คือกรุงเทพไม่มี๊นะ ร้านหมูกะทะอะไรแบบเนี้ยะ แบบอีลิตสุดๆ 55






เห้ยยย แต่แบบร้านหมูกะทะนี่ไม่ธรรมดานะ มีกุ้ง หอย ปู ปลาเป็นตัวๆ
หมึกนี่ไม่ใช่หมึกหั่นชิ้นๆ นะ คือหมึกพอลมาเป็นตัวๆ เลยจร้า
ของคาวของหวานเพียบ จะกินแบบปิ้งย่างหรือจิ้มจุ่มก็เลือกเอา
ไม่รู้จะถ่ายรูปเนื้อสัตว์อย่างไงให้สวยได้จีจี - -"

พี่นะ คนย่างกุ้ง เปลี่ยนฉายาให้เรียบร้อย 55
.
.
กินมื้อเย็นเสร็จก็ยั่งกะบะหลังกลับที่พัก ณ บ้านกกกอด ข่าาา
อากาศตอนกลางคืนคือแตกต่างเหมือนกันกับตอนกลางวันมากกกกก (เสียงต่ำมาก)
นั่งกะบะหลังหนาวจนต้องกกกอดกันเลยข่าาาาาาาา

บ้านกกกอดตอนกลางคืน เงียบ สงบมาก พี่พักขอให้งดส่งเสียงดังหลัง 22.00
เดินชมบรรยากาศตอนกลางคืนสักแป่ป ก็อาบน้ำ นอนเลย
ตอนกลางคืนนี่คือ พี่ชายยยยย ชั้นหนาวววววว
ถึงกับต้องตื่นมากลางดึกมาใส่ถุงเท้า เพิ่มอีกชั้น เป็น 2 ชั้น
.
.
ตอนเช้าอากาศดีสุดๆ



แล้วนี่เข้าเต็นท์ไปนอนต่อ อากาศดีค่อดดด เย็นสบาย
บรรยากาศในบ้านกกกอด


ทางเดินไปเต้นท์ที่นอนของเรา


เรานอนเต็นท์แบบนี้ แต่ละเต้นท์มีชื่อเรียกด้วย
จำชื่อได้ไม่หมดแต่ชื่อประมาณ กอดเดือน กอดดาว กอดตะวัน
ขนาดเต้นท์ที่ตัวเองนอนยังจำชื่อไม่ได้เลยจ่ะ อย่ามาคาดหวังกับบล็อกนี่มาก บอกตรง 55
ด้านหน้าเต็นท์คือทิศตะวันออกเลย ถ้าตื่นสายนี่ตะวันส่องตาเลยจ้า

ภายในเต้นท์จะเป็นแบบนี้ มีมุ้ง เต้นท์เป็นซิป ต้องรูดซิปปิดกันละอองต้นกกเข้ามา
บางคนอาจจะแพ้ละออง และก็กันยุงด้วย
นี่คืนสภาพตอนที่นอนไปแล้ว เก็บของเพื่อกลับแล้ว
มีสะพานเพื่อเดินไปชมบรรยากาศของบึง หนอง คลอง เขื่อน หรือ ทะเลสาป
เรียกอะไรสักอย่างเนี้ยะแหละ เรียกไม่ถูก ความรู้ทั่วไปของนี่คือศูนย์ 555








มีท่าน้ำให้เดินลงไปถ่ายรูปเกร๋ๆ มีเรือเหล็กสามารถพายออกไปได้
ถ้าจะพายเรือก็ต้องเอาเรือชูชีพมาใส่ด้วย ฟรี หรือถ้าจะพายเรือคายัคก็มีแต่ต้องเสียค่าเช่า
บ้านกกกอดมีอาหารเช้าให้คนละ 1 ชุด เตรียมไว้ให้


มีกาแฟ โอวัลตินร้อน ชงกันเองตามใจชอบ ขนมปัง ปิ้งกันเอง
ไข่ดาว ไส้กรอก มีคนทำไว้ให้
กินเสร็จก็ออกไปถ่ายรูปกับธรรมชาติแบบเกร๋ๆ










การถ่ายรูปนี่งานแอ๊บคือต้องมา งานพยายามเป็นนางเอกเอ็มวีคือต้องมา
มันเป็นฟีลลิ้งเกร๋ๆ อะค่ะ 55






นี่ว่าฟีลลิ้งนี่มาแล้ว ความพยายามนี่ก็มาแล้ว แต่คือ ซิ่ม วิน
ดูท่า She ตูนึกว่านางกำลังถ่ายปก Vogue ฉบับ September Issue
55555555 *หัวเราะแบบลืมปิดไมค์*

หลังจากแอ๊บถ่ายรูปกับธรรมชาติเสร็จก็มาแอ๊บถ่ายในบริเวณที่พักกันต่ออี๊กกกก
อีพวกนี่คือถ่ายรูปไม่เบื่อเลออ

อิโฟมกำลังพยายามล่อลวงเด็กอยู่ นางทดลองเป็นติ๊งต่างหรือไอ้หนุ่ย 2 อยู่ค่ะ 55
น้องเป็นแขกที่มาพักเหมือนกัน ชื่อน้อง อโณ (?)

มีเตียงให้นั่งเล่น นอนเล่น ชายปาล์มก็นอนอ่านหนังสือเกี่ยวกับเดอะรอยัลไปค่ะ


บริเวณที่นั่งกินข้าวเช้า คือตรงนี้แหละ มีหนังสือให้อ่าน มีเพลงเปิดให้ฟัง

บ้านกกกอด เลี้ยงน้องเป็ดปุ๊กไว้ด้วย เดินดุ๊กดิ๊กๆ ไปมา
พอจะเดินไปถ่ายใกล้ๆ น้องเป็ดก็วิ่งหนีตัลหลอด ถ่ายรูปได้ใกล้สุดเท่านี้จริงๆ
.
ถึงเวลาต้องกลับแล้ว มีขนมผิงนอนเฝ้าตรงทางออก
เพื่อรอส่งพวกเราโดยเฉพาะเลย แหม๋ หมาแสนรู้จริงๆ

กึ๊ดบาย บ้านกกกอด ~
*หากใครอ่านมาถึงตรงนี้ ท่านกำลังเข้าสู้บริการรับฝากหัวใจจจจ* #ผิด
ท่านได้อ่านมาถึงครึ่งทางแล้ว รัวมือ สู้ต่อไปนะคนเก่งงง
ออกจากบ้านกกกอด เป้าหมายอยู่ที่้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

พร้อมสำหรับการเดินทาง ทดลองเป็นสาวพม่าอพยพหนีเข้าเมือง
พี่นะกับพี่จ่าพาเราเราขับรถขึ้นเขาไปตามทาง
เอารถลงเรือข้ามน้ำ (แพขนานยนตร์) ข้ามเขื่อนเพื่อไปน้ำตกอีกที เห้ออ แค่เล่าก็เหนื่อยแล้ว





เอารถขึ้นแพขนานยนต์ข้ามไปอีกฝั่ง ประมาณ 20 นาทีก็ถึงฝั่ง



คือขำรูปข้างบน คือซิ่มเจ้าแม่ปกโว้ค นางพลาด นางไม่คิดว่าจะเข้าเฟรม 555
ในมือนางถือข้าวเหนียวเผือกปิ้ง ขนมแบบซิ่มสไตล์ข่าาาา

อ้าว เจ้ลำยอง เจ้จะไปเล่นไพ่บ่อนไหนจ๊ะ ถถถถ


และแล้วเราก็ถึงฝั่ง และแวะทานอาหารกลางวันกันที่ ร้านแพปู่ ย่า ตา ยาย
แพที่มีทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ข้างล่างไง

ซิ่มนางก็ยังคงพลาดแบบรัวๆๆ 555

อาหารที่แพปูยาตายาย คือมีแต่เมนูปลา และผัก รสชาติโอเค มอบให้แปดกระโหลก
อยากจิบอกว่าระหว่างทางนี่มีแพร้านอาหารที่เรากินข้าวร้านเดียวจริงๆ
ถ้าไม่กินร้านนี้ก็ทนหิวไปนะครัช แหม๋
กินข้าวเสร็จก็เดินทางกันต่อ
ขับรถผ่านถนนลูกรัง ฝุ่นนี่ตลบอบอวลจ่ะ พี่นะคือขับรถไม่ถงถามสุขภาพคนนั่งกะบะหลังเลยซ่ากกกคำ
เมื่อถึงท่าเรือขนานยนต์
พวกเราก็ถามป้าคนท้องถิ่นว่าอีกกี่นาทีเรือจะมาอีกรอบ
ป้าบอกรออีกนาน เป็นชั่วโมงอะ และไม่รู้รู้ว่าจะมีเรือมารึเปล่า
พวกเราก็ อ้าว ป้า !!! สงสัยป้าไม่อยากให้พวกเราไป me/ เป่านกหวีดใส่ป้า
สรุปคือต้องรอเรือเพื่อเอารถข้ามไปประมาณ 1 ชม
ป้าคงสัมผัสได้ว่า พวกเราคิดงานจัญไร ใจต้อง เ_ี้ย
ซึ่งป้าก็คิดถูก เราก็นินทาป้ากันไปเรียบร้อย 555555555


รอเรือกันจนหลับไป 1 ตื่น ในที่สุดเรือก็มา
พี่ชายชั้นมารอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ

พอขึ้นเรือก็หลับกันอีกจ่ะ ขึ้นเรือรอบนี่นานกว่ารอบแรก
เพราะข้ามไกลกว่า ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 1 ชั่วโมงได้




จากคุยเล่นกันอยู่ดีๆ สักพักเราก็เริ่มตีกันขร่ะ
ถือเป็นปกติของกลุ่มเรา เรามักจะคุยกันนานๆได้ไม่เกิน 5 นาที


เห็นฝั่งล้าวววว จะถึงล้าวววว คือเดินทางกันมาครึ่งค่อนวัน
ขับรถขึ้นเขา เอารถข้ามเรือ ใช้เวลาประมาณเกือบ 6 ชั่วโมง เพื่อเดินทางไปน้ำตกห้วยแม่ขมื้น
แล้วเพิ่งมารู้ความจริงว่า ....
ถ้าขับรถจากบ้านกกกอดไปตามถนนปกติเพื่อไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นเลย
ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็ถึง
5555555555555555555555555
me / จับพี่จ่ากับพี่นะ ทุ่มลงน้ำ 100 ครั้ง
พี่ๆ บอกว่าทริปนี้มันได้ดูมีอะไร ถ้าขับรถไปถึงเลยมันก็ธรรมดาสิ
พี่เลยต้องพาพวกเราขับรถลุยฝุ่น ลุยทางลูกรัง นั่งปวดตูดอีก อั้นฉี่แล้วอั้นฉี่อี๊กกกก แบบเกร๋ๆ
งานพยายามเลยต้องมา ขอบคุณในความหวังดีของขุ่นพี่มากจ้าาาาาา
ในที่สุดเราก็มาถึง น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ตอนเวลาประมาณ 17.00 น.


เพราะเรามาถึงเย็น เราเลยชมน้ำตกได้แค่ชั้น 4 - ชั้น 1
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นมี 7 ชั้น
ชั้น 4 คือน้ำตก ฉัตรแม้ว ฉัตรแป้ว ฉัตรแอ้ว เอ้ย ฉัตรแก้ว
ชั้นนี่สามารถนำเต้นท์มากางนอนได้ สามารถทำอาหารได้


ท่าประจำลุ่ม คือ ต้องถ่ายท่านี้ จับมือกัน
ชูขึ้นสุดแขน และ หันตูดให้กล้อง

เดินลงไปชมชั้นตกชั้น 3-1 ต่อ พี่จ่าเดินนำไป
ส่วนพี่นะขับรถลงไปรอรับข้างล่าง พวกเราจะได้ไม่ต้องเดินลงเดินขึ้นให้เมื่อยแ้ข้ง เมื่อยกระดูก




น้ำสวยใสมากกกกก สวยไม่สวยดูจากหน้าน้องปาล์ม
เธอดูตื่นเต้นเฟ่ออออออออ น้ำน่าเล่น แต่พวกเรามากันเย็นเกินไป
.
.
เดินออกจากน้ำตกรอพี่นะขับรถลงมารับ

.
.
กลับจากน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนั่งรถยาวรนถึงตัวเมืองกาญ นั่งหนาวจนมดลูกสั่นกันอิ๊กกกกกกกก
ถึงเมืองกาญแวะกินอาหารเย็นที่ ตลาดโต้รุ่งเมืองกาญ มีร้านอาหารให้เลือกกินล้านแปด


คืออิพวกนี่หิวกันมาก และคนที่นี่ก็เยอะอย่างกับทัวร์จีนมาลง
อยากกินข้าวมันไก่ทอด AEC ไก่ทอดก็หมดอีกกก #เรื่องมันเศร้า
ท้องไส้คำราม ฟ้าครามพลันมืดมัว เท้าวิ่งซอยระรัว ฉันกลัวไม่ทัน
เดี๋ยวนะร้องผิดปะแก วงบอร์ดี้สแลมอย่าสาปหนูนะ เ่ล่นไป 2 รอบแล้วเพลงนี้ 555
กินของคาวแล้วก็ต่อแล้วของหวานที่ร้านนมชื่อดังของเมืองกาญ ล้านแปดนมสด



ร้านนี้ขนมปังนึ่งจิ้มสังขยา กับ นมตราหมีปั่นอร่อยลื้มมมมม

จะ AEC แล้วพวกเรายังกินไม่อิ่มเลออออ



เหยยย มื้อเย็น อิ่มอะ ดีอะ คือดีอะ ถูกและประหยัด
พี่จ่ากับพี่นะกรุณามาส่งที่พักคืนสุดท้ายของทริปนี้ คือ โรงแรม U Inchan Tree
บอกลาพี่ๆกันไป อยากจิก้มกราบด้วยท่าเบญจางคประดิษฐ์กับพี่งาม
ขอบคุณจริงๆ
.
.
U Inchan Tree
มาถึงโรงแรมเกือบ 23.00 พนักงานก็มาต้อนรับขับสู้ช่วยหอบหิ้วกระเป๋าให้อย่างดี

คุณพนักงานก็ให้นี่เลือกสบู่ที่ใช้เพิ่มซึ่งในห้องจะมีกลิ่นตะไคร้ให้อยู่แล้ว อีกห้องละ 1 ก้อน
มี 4 กลิ่น กลิ่นมะลิ เยื่อไผ่ ตะไคร้ กล้วยไม้
นี่ก็เลือกกลิ่นมะลิ อาบแล้วดูเป็นนางไม้ นางตะเคียนกันไปข่าาา 55







สภาพภายในห้องก็ประมาณนี้ อยากได้รีวิวแบบสมบูรณ์เชิญหาอ่านได้ที่อื่น 55
ตู้เย็นสามารถเลือกดื่มเครื่องดืมได้คนละ 1 อย่าง เป็นเวลคัมดริ๊ง


มีห้องสมุดด้วย แต่ถามจริง ใครจิมานั่งอ่าน 55
หรืออาจจะมีคนรักการอ่าน แต่ไม่ใช่นี่แน่นอน
ภายในห้องนอน


มี Free Wi-Fi ให้ ตอนเช็คอินพนักงานให้ Password มา
.
.
บรรยากาศภายในโรงแรมตอนเช้า
สังเกตุว่าที่นี่ไม่มีห้องหมายเลข 113 คงตามความเชื่อเรื่อง Lucky Number











ต้นจันทร์ ที่เป็นที่มาของชื่อโรงแรม Inchan Tree เอกลักษณ์ของโรงแรม อยู่กลางโรงแรม
จำนวนห้องน้อยน่าจะ 30 ห้องได้ แต่ภายในห้องเล็กไปหน่อย แต่บรรยากาศดีฝุดๆ


.
.
.
ด้านหลังของโรงแรม ติดแม่น้ำแคว






อยู่ตรงโค้งแม่น้ำพอดี สวยงาม คือ เลอค่าค่ะ


มองอีกด้านจะเห็นสะพานข้ามแม่น้ำแควอยู่ไกลลิบๆ


.
.
อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ห์กับแบบอาหารชุด






คือเค้าจัดวางอาหารมาให้อย่างนี้จริงๆนะ
นี่ไม่ได้เคลื่อนย้ายอะไรเลยจริงนะ คุณผู้โช้มมมมมม อย่าคิดลึกมันไม่ดีไม่งามนะเด็กๆ 55


มีทั้งอาหารแบบไทยหรือแบบเบรคฟาสต์ให้เลือก อิพวกนี้กินกันคุ้มอะคะ




นั่งทานอาหารริมแม่น้ำแคว
.
.
บอกให้พอยถ่ายรูปให้หน่อย คือนี่จะแอ๊บถ่ายรูป

แต่คือร่ะ ซิ่มแย่งซีน She จิกกล้องจิแตกอยู่ล้าว ดูหน้าอินี่สิ 55
.
.
กลับมาที่บรรยากาศในโรงแรมต่อ
มีสระว่ายน้ำอยู่ใกล้ห้องอาหาร เป็นสระน้ำล้น




.
บริเวณล๊อบบี้


.
ด้านหน้าโรงแรม

กลับมาที่ห้องสมุดตอนกลางวันกันหน่อย



นี่ก็มานั่งแอ๊บถ่ายรูปเฉยๆ 555

ด้านหลังห้องพัก ของห้องฝั่งป็นที่เสองชั้น
.
.





งานแอ๊บถ่ายรูปค่ะ กดชัตเตอร์ถ่ายรูปจนนิ้วซ้น คือภูมิใจตัวเอง 55
.
.
โรงแรมมีจักรยาน สามารถยืมขี่ไปเที่ยวได้
พวกเราเลยปั่นไป สะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม



สู้สุดชีวิต สู้สุดชีวิต ปั่นๆ กันไป ความหนาวไม่เหลือแล้วอะ ร้อนค่ะร้อน
ปั่นจักรยานเป็นเวลา ...
3 นาทีก็ถึงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ถือว่าเป็นสถานที่ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวจะต้องมา
มาทั้งทัวร์ฝรั่ง ทัวร์สมาคมแม่บ้านทำกะปิ ทำกระเทียมดอง
แม่บ้านสมาชิก อ.บ.ตง อ.บ.ตอ งี้มากันหมด คนเยอะมาก




มาเพื่อถ่ายรูป แล้วอ่อม... อารมณ์แบบ ... มาแล้วนะ สะพานข้ามแม่น้ำแคว
ถ่ายรูปเสร็จ เอ้า กลับๆๆ คือเมิงไม่ได้ซาบซึ่งในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาิติเลยไง ณ จุดนี้ 55
.
.
กลับจากเที่ยวชมสะพานข้ามแม่น้ำแคว ก็กลับมาพักที่ห้องก่อนเช็คเอ้าท์

นี่คือสภาพห้องของหญิงสาวค่ะ เรียบร้อยช้ะะะ ฮาๆ
อ่านมาถึงตรงนี่ ไหนคะะะะะะ กินเค้ก จิบชา ถ่ายรูปแบบเกร๋ ?? 555
.
.
ถึงเวลากลับสู้โลกแห่งความจริง
สู้สู้ชีวิต สู้สู้ชีวิตตตตต (คนเราถ้าสุขถาพดี อะไรๆ ก็ดี หมอเส็งได้กล่าวไว้ เรื่องสมุนไพรไว้ใจโผ้มม)

บอกลากันที่ MK อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เริ่มต้นที่นี้ เราก็บอกลาที่นี้
.
.
ขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณในการเดินทางครั้งนี้มาก ๆ

พี่จ่า และ คุณพ่อเลี้ยงณรงค์ (เอ๊ะทำไมคนนี้มีหลายฉายา 55 )
ถ้ามีโอกาสดีๆ พาพวกเราไปเที่ยวอีกนะคะะะ ขุ่นพี่ คึคึ
.
.
จบซะที
ใครอ่านรวดเดียวจบ นี่ขอมอบโล่พร้อมไวน์จากฝรั่งเศสมองนากูร์ หาพอเมิงเลอร์ให้เลยค่ะ
คุณเก่งมากที่อดทนอ่านความพร่ำเพ้อจนจบได้ รัวมือ 555555555
























